5310/2564 และกำหนดนัดชี้สองสถานและสืบพยานในวันที่ 21 มีนาคม 2565 ฝ่ายกฎหมายและที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทฯ เชื่อว่าการฟ้องคดีของบริษัทฯ เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ และกรรมการของบริษัทฯ 3. เมื่อวันที่ 11 พ. ย. 2564 บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องจำเลยและกรรมการของจำเลยต่อศาลแพ่ง ในฐานความผิดที่ว่าจำเลยใช้สิทธิฟ้องคดีบริษัทฯ โดยไม่สุจริตและกระทำละเมิดต่อบริษัท ให้จำเลยและกรรมการของจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายหายให้แก่บริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 268. 33 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 2/64 จำเลยได้ยื่นฟ้องบริษัทฯ เป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง โดยกล่าวหาว่าบริษัทฯ กระทำการผิดสัญญาผู้ถือหุ้น โดยขายห้องชุดในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ระบุไว้ในสัญญาผู้ถือหุ้น ทำให้กิจการร่วมค้าดังกล่าวได้รับความเสียหาย โดยจำเลยเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 88. 63 ล้านบาท ซึ่งจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่า ไม่เป็นเป็นความจริง เนื่องจากบริษัทฯ ขายห้องชุดในราคาที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาผู้ถือหุ้น การกระทำของบริษัทฯ และกรรมการของบริษัทฯ มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ และมิได้เป็นการผิดสัญญาผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีที่จำเลยฟ้องคดีบริษัทฯ โดยไม่มีมูลตามกฎหมาย ทั้งนี้ศาลรับฟ้องคดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.
2559 - พ.
ค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลที่มีใบเสร็จตามจริง 225, 470 บาท 2. ค่ารักษาพยาบาลและค่าทำกายภาพบำบัดหลังจากจากออกจากโรงพยาบาลแล้วจำนวน 200, 000 บาท 3. ค่าขาดประโยชน์จากการทำมาหาได้ เนื่องจากภายหลังเกิดอุบัติเหตุแล้วโจทก์จะไม่สามารถทำงานหรือประกอบกิจการตามปกติได้เป็นเวลาประมาณ 2 ปีคิดเป็นเงินจำนวน 240, 000 บาท 4. ค่าเสื่อมสุขภาพ โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาแจ้งว่าโจทก์มีโอกาสสูงที่จะเป็นบุคคลทุพพลภาพหรือขาเป๋หรือถึงแม้จะไม่เป็นคนขาเป๋ก็จะไม่สามารถเดินหรือวิ่งเร็วๆอย่างคนปกติได้ เป็นจำนวน 200, 000 บาท (ปพพ ม. 444) 5. ค่าทนทุกข์ทรมานระหว่างรักษาตัวและเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุจำนวน 100, 000 บาท (ปพพ ม.